ทริปด่วน เสียมเรียบ กัมพูชา ตอนที่ 3
วันที่สองของการเที่ยวเสียมเรียบ (อ่านตอนที่ 1 และตอนที่ 2)
วันนี้ต้องตื่นแต่ตี 4 โรงแรมโทรปลุกให้ กันพลาด โรงแรมเตรียมอาหารเช้าใส่กล่องให้เราแล้ว
รถสามล้อมารับเราตอน 4.45 น. ตรงเวลา เราก็กินข้าวบนรถ จะเรียกข้าวก็ไม่เชิง มีขนมปังหลายแบบ ไข่ต้ม และผลไม้
ทริปวันนี้ถ้าเป็นทัวร์เค้าจะใช้เวลาถึงสองวันเลย แต่ทริปด่วนเหมือนไปไหว้พระเก้าวัดแบบเรา เอาไปรวมกันเลย คนขับรถพาไปไม่งั้นคือไม่รู้ต้องไปไหนกันบ้าง
ก่อนเข้าทุกปราสาทจะมีคนคอยตรวจตั๋วอยู่ด้วย ดังนั้นที่ห้อยคอนี่สะดวกจริงๆ จะได้ไม่หล่นหาย
เราไปถึงนครวัดก็ ตีห้าเกือบครึ่งล่ะ คนเริ่มเยอะ แต่เรางงๆ เค้าดูไรกันตรงไหนหว่า ทริปด่วนจริงๆ ก็มีคนนั่งด้านนอกด้วยเยอะเลย
นครวัดจะมีคูน้ำใหญ่โดยรอบ เหมือนตรงทางเข้าเดิมจะปิดซ่อม เราต้องเดินบนทางลอยน้ำที่เป็นทุ่นพลาสติกต่อๆกัน เดินไปยวบๆๆ ดีนะ
เข้าไปข้างในก็ยังไม่ถึงต้องเดินไปอีก คนขายของเริ่มมาชวนขายอาหารเช้า บอกทางด้านซ้ายมือจะเป็นมุมที่ดี คนยืนริมคูน้ำกันใหญ่เลย เราก็เลยเดินไปถ่ายมา เมฆมากมาย ได้มาประมาณนี้ ปรับแสงเว่อร์ๆ
ถ้าเตรียมตัวดีๆ ก็จะรู้ว่าต้องไปดูนางอัปสรตรงไหน ถ่ายรูปตรงไหนบ้าง แต่ทริปด่วนนี่เดินวนไปไกด์ไม่มี มองๆชอบไหนก็ถ่ายมา
แต่ต้องบอกว่าเป็นที่นึงที่เรารู้สึกว่าสมัยก่อนคงรุ่งเรื่องและมีชีวิตชีวามากๆ ส่วนใหญ่ในหนังสือนำเที่ยวจะมีบอกอยู่นะว่าอะไรที่น่าสนใจอยู่ตรงไหน เราแบกหนังสือมาแต่เพื่อนบอกหนักแก...โยนไว้โรงแรมซะงั้น ก็ดูตามมีตามเกิด แอบฟังไกด์ชาวบ้านไปบ้าง (ไม่ควรทำตามนะ ควรวางแผนสักหน่อย)
สงสัยเราจะมาเช้าเกิน ตรงที่เค้าบอกเป็นปราสาทประทานเราไม่ได้ขึ้นไปเพราะเค้าห้ามขึ้น ทางก็ชันด้วย
จากนั้นเราก็ไปต่อที่ นครธมกันนะ
สะพานทุกด้านมักเป็นรูปกวนเกษียนสมุทร
ปราสาทจะเริ่มเปิดให้เข้าประมาณ 7 โมง ถึง 7 โมงครึ่งนะ มาไวกว่านี้ก็กินข้าวก่อนก็ได้
นครธม มีไรให้ดูบ้าง
- ปราสาทบายน
- ปราสาทบาปวน
- ปราสาทพิมานอากาศ
- ลานช้าง
- ลานพระเจ้าขี้เรื้อน
จากนั้นก็พาเราไปส่งที่ปราสาทบายน ซึ่งรถจะไปรอรับเราอีกทีแถวลานช้าง
พี่คนขับก็มักจะบอกว่าตรงไหนถ่ายรูปสวยบ้างด้วยนะ ใจดีจริงๆ แถมมีน้ำเย็นๆให้เรากินตลอด (ซื้อเองขวดละ 1-1.5 usd ราคาเท่าน้ำที่ญี่ปุ่นเลย)
มาถึงก็ต้องร้อง....โอวววว เหมือนมีคนมองเราจริงด้วย หน้าคนเยอะซะขนาดนี้ หลอนสุดๆ
ทางเดินเข้า ยังกับ runway นางแบบ สูงนะ อย่าหล่นไปเชียว จึงเข้าทางนึงแล้วก็ออกอีกทางนึง
ปราสาทนี้ บอกตรงๆ ทางขึ้นแสนชัน เล่นซะปวดเข่าเลย
ที่นี่ด้านหลังมีเหมือนพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ด้วยนะ
ส่วนตรงอื่นๆ ปราสาทพิมานอากาศ ลานช้าง และลานพระเจ้าขี้เรื้อน เราก็เดินแบบผ่านๆ เล่าข้ามไปแล้วกันนะ
เราก็เริ่มเหนื่อย ห้องน้ำ นี่เราจะพบเจอได้แถวใกล้ที่จอดรถ ซึ่งห้องน้ำทุกห้องมีสายชำระด้วยนะ
ออกจากรั้วนครธม ก่อนออกจากประตู พี่สามล้อก็จอดให้เราลงตรงประตูอีกล่ะ ให้ปีนขึ้นไป ถ่ายรูปด้านข้างประตู victory gate เราเอาชื่อมาจากใน google map ไปต่อปราสาทอื่นๆ กัน
ซึ่งอย่างตอนต้นได้บอกไป ถ้าเป็นทัวร์แบบที่โรงแรมจัดให้ ก็จบวันนึงเท่านี้เองจ๊ะ แต่พี่สามล้อพาเราไปต่อ ซึ่งบอกตรงๆ ยังไม่เที่ยงเลย แต่แอบหิวล่ะ งัดของโรงแรมให้มากินต่อ
เราก็ไปปราสาทธมมานนท์ ปราสาทเจ้าสายเทวดา ปราสาทตาแก้ว แต่เราไม่ลงรายละเอียดนะ
ปราสาทสุดฮิต คนเยอะมาก ด้านในก็แคบๆหน่อย เพราะเคยเป็นที่ถ่ายทำหนังฮอลิวู๊ด แบบ Tomb Raider เชียวนะ จุดเด่นที่นี่คือต้นไม้รากไม้ใหญ่ที่ต้นสูงมาก รากไม้ก็ใหญ่มาก ปกคลุมปราสาท
เป็นที่ที่คนมักมาดูพระอาทิตย์ตกดินกัน แต่ตอนเรามาถึงมันเที่ยงๆ ได้ล่ะมั้งนี่น้า... ร้อนจิ แม้แดดไม่ได้ออกมาก แต่เป็นที่ ที่สูงมากเลย ชันด้วย (เข่าอิฉันไม่ไหวอีกแล้ว) เดินวนๆ รอบปราสาทแทน
เป็นที่น่าสนใจอีกที่นึง ต้นไม้เยอะดี ไม่ค่อยร้อน ศิลปะยุคบายน นี่ก็คงดูไม่ยาก มีหน้าเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นเอกลักษณ์สินะ ที่นี่จะมีรากไม้ ขึ้นคลุมซุ้มประตูอยู่ ซึ่งต้องเดินมาด้านในหน่อย
เป็นปราสาทที่ต้องเดินผ่านแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ทางเดินก็ไม่ใหญ่มาก แต่น้ำก็ไม่ลึกนะ วิวสวยดี
ตำนานมี แต่ไปหาอ่านเอานะ เราเน้นความสวยงามที่เห็นด้วยตา (ใช่หรา ทริปด่วนไม่ได้อ่านมามากกว่านะ)
ปราสาทสุดท้ายล่ะ ลืมเล่าว่าพี่เค้าก็พาเราไปทานข้าวร้านนึง ก็โอแหละ ให้เยอะ รสชาติโอเค จำชื่อร้านไม่ได้ล่ะ มี wifi ให้ใช้ด้วย
เป็นปราสาทสุดท้ายล่ะ และเป็นปราสาทที่มีเรื่องราวเยอะเหมือนกันนะ ใหญ่ด้วย พี่สามล้อมาส่งตรงประตูทิศเหนือ และบอกจะไปรอรับที่ประตูทิศตะวันตก
เหมือนเป็นเมืองย่อมๆ เลยนะปราสาทนี้ ประตูมี 4 ทิศ ทางเดินหลักมี 4 ทิศ ตรงศูนย์กลางมีการสร้างสถูปไว้ ในหนังสือเค้าบอกว่าน่าจะสร้างทีหลัง ประตูทางเดินบางจุดก็เล็ก ต้องก้ม
มีรากไม้ให้ดูเหมือนกันนะที่นี่ ทางประตูทิศตะวันออก
ตรงใกล้ๆ สถูป ก็จะมีเหมือนเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ด้วย ตรงนี้เจ้าหน้าที่ก็เดินมาคุยด้วย ก็เล่าโน่นนี่ให้เราฟัง แนะนำให้เราเดินไปฝั่งตะวันออกก่อนนะ แล้วค่อยไปตะวันตกนะ ถ่ายรูปหมู่ให้เราด้วย แหม่ใจดี ตบท้ายฮีก็บอกว่า....ขอทิปหน่อยจ้าาาา...อ่ะจัดไป (แม้จะตกใจเล็กน้อยในตอนแรก)
ด้วยคำแนะนำก็ทำให้เราเดินไปชมโน่นนี่นั่นได้มากขึ้น มีห้องนึงเป็นห้องควีน เห็นเค้าว่าชีถูกฝังไว้ที่นั่น ก็เป็นห้องมีประตูเล็กๆ น่าอึดอัดนิดหน่อย มีจุดธูปบูชาด้วย แอบน่ากลัว
ทางประตูด้านตะวันตก ก็จะเป็นรูปของพราหม์ นางอัปสรก็จะเป็นแบบถือดอกบัว ไม่เหมือนทางทิศตะวันออกจะเป็นแนวร่ายรำ
แบบว่าแบตกล้องหมดเกลี้ยง ... เลยม๊ะมีรูปปราสาทนี้ล่ะ ถ้าได้จากกล้องเพื่อนจะมาอัพเดทแล้วกัน
ทริปทัวร์จบตรงนี้ตอนแรกว่าจะกลับไปนครวัดอีกรอบ แต่ฝนไล่เรามา แถมเหนื่อยตื่นตีสี่ จนบ่ายสี่ก็เพลีย สรุปวันนี้เหมาพี่สามล้อทั้งวัน พี่แจกน้ำเย็น ผ้าเย็นให้เราตลอดเลย พี่เค้าคิด 20$ จริงๆ จะให้มารับไปเที่ยวตลาดตอนกลางคืนก็ได้อีก แต่เราเองที่ไม่ไหว ขอพักดีกว่า
เรื่องเด็กขายของ คนขายของมีทุกที่เลย เด็กขี้ตื้อมากด้วยนะ สามอันร้อยบาท แป๊บเดียวลดให้เหลือสิบอันร้อยบาทเลย สำหรับที่ติดตู้เย็น ท่องกันมาเป็นสูตรคูณเลย วันดอลล่าร์ บราๆๆๆ ขายเก่งจริงๆ แต่ขายได้ไหมอีกเรื่องนะ ร้านน้ำก็เหมือนกัน จะถามซื้อน้ำ ต่อไปต่อมาจริงๆ ต่อได้ ขวดละ 1$ นี่ก็ราคาปกติ แต่ถ้าพี่สามล้อมีน้ำให้ พี่สามล้อเต๊อะเย็นชื่นใจกว่าเยอะ
สนใจสามล้อใจดี แถมน้ำเย็นผ้าเย็น แอดเลยจ๊ะ พี่พูดไทยได้ พิมพ์ไทยตอบในไลน์ได้
ชื่อพี่ sophal
line id: De092293190
facebook : sophal maois
สรุป ที่เราว่าน่าสนใจและสวยต้องแวะ หากมีเวลาน้อยแต่อยากอิ่มเอม ก็มี นครวัด ปราสาทบายน ปราสาทตาพรม ปราสาทตาสม ปราสาทนาคพัน และปราสาทพระขรรค์ จริงๆ ปราสาทบันทายสรี ก็น่าสนใจ แต่มันคงไกลสุด ไม่ได้ไป หากมีเวลาก็ควรไปเที่ยวน้ำตก หรือนอกเมืองบ้าง พี่สามล้อก็มี แครมมี่มาให้บริการเหมือนกันล่ะ
คราวหน้าเราจะไปรีวิวโรงแรมกันแล้วล่ะน้า เพราะเป็นวันกลับเครื่องออกเที่ยงๆ ก็ไม่ได้เที่ยวล่ะนะ กลัวไม่ได้กลับบ้าน
วันนี้ต้องตื่นแต่ตี 4 โรงแรมโทรปลุกให้ กันพลาด โรงแรมเตรียมอาหารเช้าใส่กล่องให้เราแล้ว
รถสามล้อมารับเราตอน 4.45 น. ตรงเวลา เราก็กินข้าวบนรถ จะเรียกข้าวก็ไม่เชิง มีขนมปังหลายแบบ ไข่ต้ม และผลไม้
ทริปวันนี้ถ้าเป็นทัวร์เค้าจะใช้เวลาถึงสองวันเลย แต่ทริปด่วนเหมือนไปไหว้พระเก้าวัดแบบเรา เอาไปรวมกันเลย คนขับรถพาไปไม่งั้นคือไม่รู้ต้องไปไหนกันบ้าง
ก่อนเข้าทุกปราสาทจะมีคนคอยตรวจตั๋วอยู่ด้วย ดังนั้นที่ห้อยคอนี่สะดวกจริงๆ จะได้ไม่หล่นหาย
นครวัด (Angkor Wat)
สมัยประเจ้าสุริยวรมันที่ 2 | พุทธศตวรรษที่ 17 | ศิลปะยุคนครวัดเราไปถึงนครวัดก็ ตีห้าเกือบครึ่งล่ะ คนเริ่มเยอะ แต่เรางงๆ เค้าดูไรกันตรงไหนหว่า ทริปด่วนจริงๆ ก็มีคนนั่งด้านนอกด้วยเยอะเลย
นครวัดจะมีคูน้ำใหญ่โดยรอบ เหมือนตรงทางเข้าเดิมจะปิดซ่อม เราต้องเดินบนทางลอยน้ำที่เป็นทุ่นพลาสติกต่อๆกัน เดินไปยวบๆๆ ดีนะ
เข้าไปข้างในก็ยังไม่ถึงต้องเดินไปอีก คนขายของเริ่มมาชวนขายอาหารเช้า บอกทางด้านซ้ายมือจะเป็นมุมที่ดี คนยืนริมคูน้ำกันใหญ่เลย เราก็เลยเดินไปถ่ายมา เมฆมากมาย ได้มาประมาณนี้ ปรับแสงเว่อร์ๆ
ถ้าเตรียมตัวดีๆ ก็จะรู้ว่าต้องไปดูนางอัปสรตรงไหน ถ่ายรูปตรงไหนบ้าง แต่ทริปด่วนนี่เดินวนไปไกด์ไม่มี มองๆชอบไหนก็ถ่ายมา
แต่ต้องบอกว่าเป็นที่นึงที่เรารู้สึกว่าสมัยก่อนคงรุ่งเรื่องและมีชีวิตชีวามากๆ ส่วนใหญ่ในหนังสือนำเที่ยวจะมีบอกอยู่นะว่าอะไรที่น่าสนใจอยู่ตรงไหน เราแบกหนังสือมาแต่เพื่อนบอกหนักแก...โยนไว้โรงแรมซะงั้น ก็ดูตามมีตามเกิด แอบฟังไกด์ชาวบ้านไปบ้าง (ไม่ควรทำตามนะ ควรวางแผนสักหน่อย)
สงสัยเราจะมาเช้าเกิน ตรงที่เค้าบอกเป็นปราสาทประทานเราไม่ได้ขึ้นไปเพราะเค้าห้ามขึ้น ทางก็ชันด้วย
จากนั้นเราก็ไปต่อที่ นครธมกันนะ
นครธม (Angkor Thom)
นครธมมีหลายปราสาทอยู่ในนั้นล่ะ ก่อนเข้าไปรถก็จะจอดให้เราถ่ายสะพานทางเข้าก่อน ซึ่งแน่นอน ต้องมีน้ำรอบกำแพง ทางเข้าทางออกนครธม ช่องแค่รถผ่านได้เลนเดียว ก็วัดใจกันนิดนึงสะพานทุกด้านมักเป็นรูปกวนเกษียนสมุทร
ปราสาทจะเริ่มเปิดให้เข้าประมาณ 7 โมง ถึง 7 โมงครึ่งนะ มาไวกว่านี้ก็กินข้าวก่อนก็ได้
นครธม มีไรให้ดูบ้าง
- ปราสาทบายน
- ปราสาทบาปวน
- ปราสาทพิมานอากาศ
- ลานช้าง
- ลานพระเจ้าขี้เรื้อน
จากนั้นก็พาเราไปส่งที่ปราสาทบายน ซึ่งรถจะไปรอรับเราอีกทีแถวลานช้าง
ปราสาทบายน (Bayon Temple)
สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 | พุทธศตวรรษที่ 18 | ศิลปะยุคบายนพี่คนขับก็มักจะบอกว่าตรงไหนถ่ายรูปสวยบ้างด้วยนะ ใจดีจริงๆ แถมมีน้ำเย็นๆให้เรากินตลอด (ซื้อเองขวดละ 1-1.5 usd ราคาเท่าน้ำที่ญี่ปุ่นเลย)
มาถึงก็ต้องร้อง....โอวววว เหมือนมีคนมองเราจริงด้วย หน้าคนเยอะซะขนาดนี้ หลอนสุดๆ
ปราสาทบาปวน (Baphoun)
สมัยพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 | พุทธศตวรรษที่ 17 | ศิลปะยุคบาปวนทางเดินเข้า ยังกับ runway นางแบบ สูงนะ อย่าหล่นไปเชียว จึงเข้าทางนึงแล้วก็ออกอีกทางนึง
ปราสาทนี้ บอกตรงๆ ทางขึ้นแสนชัน เล่นซะปวดเข่าเลย
ที่นี่ด้านหลังมีเหมือนพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ด้วยนะ
ส่วนตรงอื่นๆ ปราสาทพิมานอากาศ ลานช้าง และลานพระเจ้าขี้เรื้อน เราก็เดินแบบผ่านๆ เล่าข้ามไปแล้วกันนะ
เราก็เริ่มเหนื่อย ห้องน้ำ นี่เราจะพบเจอได้แถวใกล้ที่จอดรถ ซึ่งห้องน้ำทุกห้องมีสายชำระด้วยนะ
Victory Gate
ออกจากรั้วนครธม ก่อนออกจากประตู พี่สามล้อก็จอดให้เราลงตรงประตูอีกล่ะ ให้ปีนขึ้นไป ถ่ายรูปด้านข้างประตู victory gate เราเอาชื่อมาจากใน google map ไปต่อปราสาทอื่นๆ กัน
ซึ่งอย่างตอนต้นได้บอกไป ถ้าเป็นทัวร์แบบที่โรงแรมจัดให้ ก็จบวันนึงเท่านี้เองจ๊ะ แต่พี่สามล้อพาเราไปต่อ ซึ่งบอกตรงๆ ยังไม่เที่ยงเลย แต่แอบหิวล่ะ งัดของโรงแรมให้มากินต่อ
เราก็ไปปราสาทธมมานนท์ ปราสาทเจ้าสายเทวดา ปราสาทตาแก้ว แต่เราไม่ลงรายละเอียดนะ
ปราสาทตาพรหม (Ta Prohm)
สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 | พุทธศตวรรษที่ 18 | ศิลปะยุคบายนปราสาทสุดฮิต คนเยอะมาก ด้านในก็แคบๆหน่อย เพราะเคยเป็นที่ถ่ายทำหนังฮอลิวู๊ด แบบ Tomb Raider เชียวนะ จุดเด่นที่นี่คือต้นไม้รากไม้ใหญ่ที่ต้นสูงมาก รากไม้ก็ใหญ่มาก ปกคลุมปราสาท
ปราสาทแปรรูป (Prae Roup Temple)
สมัยพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 | ต้นพุทธศตวรรษที่ 16 | ศิลปะยุคแปรรูปเป็นที่ที่คนมักมาดูพระอาทิตย์ตกดินกัน แต่ตอนเรามาถึงมันเที่ยงๆ ได้ล่ะมั้งนี่น้า... ร้อนจิ แม้แดดไม่ได้ออกมาก แต่เป็นที่ ที่สูงมากเลย ชันด้วย (เข่าอิฉันไม่ไหวอีกแล้ว) เดินวนๆ รอบปราสาทแทน
ปราสาทตาสม (Ta Som Temple)
สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 | พุทธศตวรรษที่ 18 | ศิลปะยุคบายนเป็นที่น่าสนใจอีกที่นึง ต้นไม้เยอะดี ไม่ค่อยร้อน ศิลปะยุคบายน นี่ก็คงดูไม่ยาก มีหน้าเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นเอกลักษณ์สินะ ที่นี่จะมีรากไม้ ขึ้นคลุมซุ้มประตูอยู่ ซึ่งต้องเดินมาด้านในหน่อย
ปราสาทนาคพัน (Neak Pean)
สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 | พุทธศตวรรษที่ 18 | ศิลปะยุคบายนเป็นปราสาทที่ต้องเดินผ่านแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ทางเดินก็ไม่ใหญ่มาก แต่น้ำก็ไม่ลึกนะ วิวสวยดี
ตำนานมี แต่ไปหาอ่านเอานะ เราเน้นความสวยงามที่เห็นด้วยตา (ใช่หรา ทริปด่วนไม่ได้อ่านมามากกว่านะ)
ปราสาทสุดท้ายล่ะ ลืมเล่าว่าพี่เค้าก็พาเราไปทานข้าวร้านนึง ก็โอแหละ ให้เยอะ รสชาติโอเค จำชื่อร้านไม่ได้ล่ะ มี wifi ให้ใช้ด้วย
ปราสาทพระขรรค์ (Preah Khan Temple)
สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 | พุทธศตวรรษที่ 18 | ศิลปะยุคบายนเป็นปราสาทสุดท้ายล่ะ และเป็นปราสาทที่มีเรื่องราวเยอะเหมือนกันนะ ใหญ่ด้วย พี่สามล้อมาส่งตรงประตูทิศเหนือ และบอกจะไปรอรับที่ประตูทิศตะวันตก
เหมือนเป็นเมืองย่อมๆ เลยนะปราสาทนี้ ประตูมี 4 ทิศ ทางเดินหลักมี 4 ทิศ ตรงศูนย์กลางมีการสร้างสถูปไว้ ในหนังสือเค้าบอกว่าน่าจะสร้างทีหลัง ประตูทางเดินบางจุดก็เล็ก ต้องก้ม
มีรากไม้ให้ดูเหมือนกันนะที่นี่ ทางประตูทิศตะวันออก
ตรงใกล้ๆ สถูป ก็จะมีเหมือนเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ด้วย ตรงนี้เจ้าหน้าที่ก็เดินมาคุยด้วย ก็เล่าโน่นนี่ให้เราฟัง แนะนำให้เราเดินไปฝั่งตะวันออกก่อนนะ แล้วค่อยไปตะวันตกนะ ถ่ายรูปหมู่ให้เราด้วย แหม่ใจดี ตบท้ายฮีก็บอกว่า....ขอทิปหน่อยจ้าาาา...อ่ะจัดไป (แม้จะตกใจเล็กน้อยในตอนแรก)
ด้วยคำแนะนำก็ทำให้เราเดินไปชมโน่นนี่นั่นได้มากขึ้น มีห้องนึงเป็นห้องควีน เห็นเค้าว่าชีถูกฝังไว้ที่นั่น ก็เป็นห้องมีประตูเล็กๆ น่าอึดอัดนิดหน่อย มีจุดธูปบูชาด้วย แอบน่ากลัว
ทางประตูด้านตะวันตก ก็จะเป็นรูปของพราหม์ นางอัปสรก็จะเป็นแบบถือดอกบัว ไม่เหมือนทางทิศตะวันออกจะเป็นแนวร่ายรำ
แบบว่าแบตกล้องหมดเกลี้ยง ... เลยม๊ะมีรูปปราสาทนี้ล่ะ ถ้าได้จากกล้องเพื่อนจะมาอัพเดทแล้วกัน
ทริปทัวร์จบตรงนี้ตอนแรกว่าจะกลับไปนครวัดอีกรอบ แต่ฝนไล่เรามา แถมเหนื่อยตื่นตีสี่ จนบ่ายสี่ก็เพลีย สรุปวันนี้เหมาพี่สามล้อทั้งวัน พี่แจกน้ำเย็น ผ้าเย็นให้เราตลอดเลย พี่เค้าคิด 20$ จริงๆ จะให้มารับไปเที่ยวตลาดตอนกลางคืนก็ได้อีก แต่เราเองที่ไม่ไหว ขอพักดีกว่า
เรื่องเด็กขายของ คนขายของมีทุกที่เลย เด็กขี้ตื้อมากด้วยนะ สามอันร้อยบาท แป๊บเดียวลดให้เหลือสิบอันร้อยบาทเลย สำหรับที่ติดตู้เย็น ท่องกันมาเป็นสูตรคูณเลย วันดอลล่าร์ บราๆๆๆ ขายเก่งจริงๆ แต่ขายได้ไหมอีกเรื่องนะ ร้านน้ำก็เหมือนกัน จะถามซื้อน้ำ ต่อไปต่อมาจริงๆ ต่อได้ ขวดละ 1$ นี่ก็ราคาปกติ แต่ถ้าพี่สามล้อมีน้ำให้ พี่สามล้อเต๊อะเย็นชื่นใจกว่าเยอะ
สนใจสามล้อใจดี แถมน้ำเย็นผ้าเย็น แอดเลยจ๊ะ พี่พูดไทยได้ พิมพ์ไทยตอบในไลน์ได้
ชื่อพี่ sophal
line id: De092293190
facebook : sophal maois
สรุป ที่เราว่าน่าสนใจและสวยต้องแวะ หากมีเวลาน้อยแต่อยากอิ่มเอม ก็มี นครวัด ปราสาทบายน ปราสาทตาพรม ปราสาทตาสม ปราสาทนาคพัน และปราสาทพระขรรค์ จริงๆ ปราสาทบันทายสรี ก็น่าสนใจ แต่มันคงไกลสุด ไม่ได้ไป หากมีเวลาก็ควรไปเที่ยวน้ำตก หรือนอกเมืองบ้าง พี่สามล้อก็มี แครมมี่มาให้บริการเหมือนกันล่ะ
คราวหน้าเราจะไปรีวิวโรงแรมกันแล้วล่ะน้า เพราะเป็นวันกลับเครื่องออกเที่ยงๆ ก็ไม่ได้เที่ยวล่ะนะ กลัวไม่ได้กลับบ้าน